Last updated: 26 ก.ย. 2565 | 1185 จำนวนผู้เข้าชม |
“กรมราง” ลงพื้นที่เปิดรับฟังความเห็นประชาชน อัพเกรดโครงข่ายรถไฟ R-map ผุดเส้นทางรถไฟสายใหม่ชัยภูมิ – เลย-หนองบัวลำภู-อุดร เชื่อมประตูการค้าการท่องเที่ยว 3 ประเทศในอนาคต
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวภายหลังโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-map) พื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า สำหรับจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวเส้นทางโครงการรถไฟทางคู่และโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-
หนองคาย โดยที่สามารถจะวางแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟต่อไปยังจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพน้ำเหือง อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ซึ่งเป็นด่านพรมแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว ที่สามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 4 ของสปป.ลาว ในแขวงไชยบุรี โดยสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองแก่นท้าว และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นประตูการค้าและการท่องเที่ยว ทั้งใน สปป.ลาว ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเวียดนามและจีนได้ โดยเส้นทางรถไฟสายใหม่ จัตุรัส - ชัยภูมิ - หนองบัวลำภู – เลย มีระยะทาง 333 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด เริ่มต้นที่ สถานีจัตุรัส จ.ชัยภูมิ ผ่านจ.ขอนแก่น จ.หนองบัวลำภู และสถานีเมืองเลย จ.เลย เป็นสถานีปลายทาง
นอกจากนี้ในเวทีสัมนาได้มีข้อเสนอให้มีการเชื่อมเส้นทางรถไฟสายใหม่จากจังหวัดอุดรธานี-จังหวัดหนองบัวลำภู เนื่องจากเป็นระยะทางที่สั้นประมาณ 100 กิโลเมตร ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการพัฒนาขึ้น นอกจากนี้จังหวัดหนองบัวลำภูมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง สามารถดำเนินการเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวเชื่อมต่อจากจังหวัดอุดรธานี และเป็นประโยชน์ต่อในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของจังหวัดได้ ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดต่อไป
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม เร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง อย่างเป็นรูปธรรม โดยจังหวัดหนองบัวลำภูเป็นจังหวัดที่มีศักภาพการท่องเที่ยวสูง แต่มีการเชื่อมต่อกับพื้นที่เมืองหลักน้อย ส่งผลให้ มี GPP ของจังหวัดต่ำเมื่อเทียบกับจังหวัดข้างเคียงอย่างจังหวัดอุดรธานีที่ GPP ในระดับสูง ดังนั้นจึงมีแนวคิดให้พื้นที่จังหวัดข้างเคียงให้มีศักยภาพในด้าน GPP เฉลี่ยใกล้เคียงกัน จากการพัฒนาการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมและการท่องเที่ยว และเนื่องจากจังหวัดหนองบัวลำภูอยู่ในระยะการเข้าถึงท่าอากาศยานของจังหวัดข้างเคียง 2 จังหวัดคือจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเลย จึงต้องพิจารณาถึงการเชื่อมโยงด้านอื่น อย่างการพัฒนาถนนทางหลวงหมายเลข 210 ที่ได้ดำเนินการแล้ว กำลังพิจารณาถึงการพัฒนาระบบรางที่เชื่อมต่อถึงจังหวัดหนองบัวลำภูเพิ่มเติม รวมถึงจากแผนการพัฒนาพื้นที่พืชสวนโลกในอีก 7 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2569-2570) และศักยภาพของนิคมอุสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองบัวลำภูสามารถดำเนินการพัฒนาและเติบโตควบคู่กันไปได้
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดขนาดเล็กมีประชากรประมาณ 509,000 คน เนื้อที่ประมาณ 3,800 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 2.4 ล้านไร่ อาชีพหลักของชาวจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นอาชีพเกษตรกรรม นอกจากนี้เป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นด้านภูมิปัญญา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และธรรมมะ และจากภูมิประเทศที่เป็นทั้งโอกาศและข้อจำกัดที่โดนล้อมด้วยจังหวัดใหญ่ อย่างจังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย จังหวัดขอนแก่น ส่งผลให้มีการเชื่อมโยงกับจังหวัดใหญ่ที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวมากเป็นระดับประเทศ ดังนั้นจังหวัดหนองบัวลำภู ต้องดึงโอกาศดังกล่าวมีเป็นเป้าหมายในการพัฒนา โดยเน้นให้เป็น “เมืองน่าอยู่ และเมืองน่าเที่ยว” จากการเป็นเมืองสะอาด เมืองที่สะดวกต่อการเข้าถึง และเป็นเมืองที่สงบปลอดภัย
นอกจากนี้ด้านการท่องเที่ยว พยายามเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวจากด้านธรรมมะ ด้านธรรมชาติ ด้านวัฒนธรรม นอกจากนี้ในปี 2569-2570 จังหวัดอุดรธานีจะมีพืชสวนโลกทางจังหวัดหนองบัวลำภูจึงมีการพัฒนาต่อยอดต้นทุนจากด้านการเกษตรกรรมควบคู่กัน นอกจากนี้เรื่องเส้นทางคมนาคมการพัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภูมีแค่การขนส่งทางถนนจากทางหลวงหมายเลข 210 เป็นเส้นทางหลักถึงจังหวัดอุดรธานี ส่งผลให้มีการเสนอแผนให้เชื่อมโยงเส้นทางรถไฟจากอุจังหวัดอุดรธานีถึงจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเป็นโอกาสการเชื่อมโยงการคมนาคมของจังหวัดหนองบัวลำภูต่อไป